“191 รวบสองสาว ทลายโกดัง ซ่อนยาเสพติ ดกว่า 10 ล้านเม็ด”มูลค่ารวมประมาณ 500,000,000 บาท
“191 รวบสองสาว ทลายโกดัง ซ่อนยาเสพติ ดกว่า 10 ล้านเม็ด”มูลค่ารวมประมาณ 500,000,000 บาท
วันนี้(12 พ.ย.68)
เวลา 13.00 น.
พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน พร้อมด้วย
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.,
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.,
พล.ต.ต. วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ.,
พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ,
พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.สายตรวจ,
พ.อ.วิรุฬห์ ชัยสุวิรัตน์ หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก ร่วมแถลงผลการจับกุมของกองบังคับการตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษหรือ 191 จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย
1. น.ส.เมรินทร์ สงวนนามสกุล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 1
2. น.ส.ศิริรัตน์ สงวนนามสกุล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 2
โดยกล่าวหาผู้ต้องหา ว่า “ร่วมกันกับพว กที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพ ติดให้โทษในประเภท 1
(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็น
การกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบ
ต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
พร้อมด้วยของกลางและทรัพย์ที่ตรวจยึด
1. ยาบ้า ประมาณ 50 กระสอบ รวม ยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด
2. รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาว จำนวน 1 คัน
3. รถยนต์ ยี่ห้อ Chevrolet รุ่น Colorado สีขาว จำนวน 1 คัน
4. รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Fortuner สีดำ จำนวน 1 คัน
5. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน
มูลค่ารวมประมาณ 500,000,000 บาท
ณ อาคารศึกษาฝึกอบรม บก.สปพ.
ตามนโยบายการบริหารราชการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดย
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,
พล.ต.อ.สําราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร.,
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ ตํารวจป้องกันและปราบปรามการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นข้อหาความผิด ร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า จําหน่าย ผลิต นําเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด

กองบัญชาการตํารวจนครบาล โดย
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.
พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบช.ประจําสํานักงาน ผบ.ตร.ช่วยราชการที่กองบัญชาการตํารวจนครบาล,
พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., และ
พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.,
พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ โดย
พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก. สปพ.,
พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.สปพ.,
พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช รอง ผบก.สปพ.,
พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ รอง ผบก.สปพ.,
พ.ต.อ.อภิฌาน สวัสดิบุตร รอง ผบก.สปพ.
พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคํา รอง ผบก.สปพ.และ
พ.ต.อ.กิตติพจน์ แก้วศรีงาม รอง ผบก. สปพ.
กองกํากับการสายตรวจ โดย
พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ,
พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.สายตรวจ,
พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง ผกก.สายตรวจ,
พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม รอง ผกก.สายตรวจ
พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจ,
พ.ต.ต.นฤนาท ทิพากร ทองสอดแสง สว.งานสายตรวจ 1,
พ.ต.ต.ณัฐดนัย บํารุงศรี สว.งาน สายตรวจ 2 และ
พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกยมวงษ์เจริญ สว.งานสายตรวจ 3 ร่วมกันแถลงผลการ จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายยาเสพติด
วันเวลาจับกุม/ตรวจยึด
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 19.30 น.
สถานที่จับกุม/ตรวจยึด
1.บริเวณโกดังไม่มีเลขที่ ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 2.บริเวณถนนไม่มีชื่อ ทางเข้าวัดฉัตรทองดําริธรรม ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
จับกุมผู้ต้องหา จํานวน 2 ราย
1. น.ส.เมรินทร์ สงวนนามสกุล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 1
2. น.ส.ศิริรัตน์ สงวนนามสกุล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 2
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจําหน่ายยาเสพ ติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็น การกระทําเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในก ลุ่มประชาชนทําให้เกิดผลกระทบ ต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
พร้อมด้วยของกลางและทรัพย์ที่ตรวจยึด
1. ยาบ้า ประมาณ 50 กระสอบ รวม ยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด
2. รถยนต์ยี่ห้อToyotaรุ่นviosสีขาวจํานวน1คัน
3. รถยนต์ ยี่ห้อ Chevrolet รุ่น Colorado สีขาว จํานวน 1 คัน
4. รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Fortuner สีดํา จํานวน 1 คัน
5. รถจักรยานยนต์ จํานวน 1 คัน
มลูค่ารวมประมาณ500,000,000บาท พฤติการณ์กล่าวคือ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ ชปส.บก.สปพ. ร่วมกับ หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก ได้ทําการสืบสวนพบว่า กลุ่ มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบลําเลียงยาเสพ ติดจากพื้นที่บริเวณ ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าพื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ทําการสืบสวนเรื่อยมาจนพบว่า ก ลุ่มเครือข่ายได้ใช้รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ และ รถยนต์ ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ สีดําฯ และใช้โกดังไม่มีเลขที่ ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยธุยา เพื่อใช้ในการพักและเก็บซุกซ่อนยาเสพ ติดก่อนนําไปจําหน่ายในพื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้วางแผนเพื่อทําการจับกุม
วันที่ 10 พ.ย. 68 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจรับแจ้งจากสายลับ ว่ากลุ่ม ผู้ต้องหาได้รับยาเสพ ติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ในโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้รายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยผู้บังคับบัญชามีคําสั่งให้ตรวจค้นจับกุมก ลุ่มเป้าหมาย
เจ้าหน้าที่ตํารวจได้นํากําลังมาเฝ้าสังเกตุการณ์กลุ่ มเป้าหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ ได้เคลื่อนตัวออกจากที่พักอาศัย และได้เดินทางมายัง โกดังที่เป็นที่ซุกซ่อนยาเสพ ติด เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้วางกําลังอยู่บริเวณใกล้เคียง
ต่อมาเวลาประมาณ 19.10 น. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ คันดังกล่าว ได้ เคลื่อนตัวออกจากโกดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขับติดตามและแสดงตัวขอทําการตรวจค้น แต่รถยนต์ เก่ง คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ตํารวจ เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้แบ่งกําลังขับติดตามรถยนต์เก่ง คันดังกล่าวไป และเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกส่วนหนึ่ง ได้เข้าไปตรวจค้นภายในโกดังที่ต้องสงสัยเป็นที่ซุก ซ่อนยาเสพติด ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องหาสองคน พร้อมรถยนต์ กระบะ ยี่ห้อ Chevrolet รุ่น Colorado สีขาวฯ จอดอยู่บริเวณด้านข้างผู้ต้องทั้งสอง เจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถเข้าควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ โดยให้ผู้ต้องหาทั้งสองนําการตรวจค้นรถยนต์กระบะดังกล่าว พบยาเสพติดให้ โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จํานวน 40 กระสอบ จํานวน 8,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ กระบะคันดังกล่าว สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ได้เดินทางมาโดยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ โดยมีนายเอ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจรงิ ) เป็นผู้ขับขแี่ ละ นายบี (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) ได้ขับรถจักรยานยนต์ ตามมา และได้ยกยาเสพติดที่อยู่ด้านหลังรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Chevrolet รุ่น Colorado สีขาวฯ ที่ตรวจสอบพบยาเสพติด ใส่ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ ออกไป และให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนนั่งรอบริเวณโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้จับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมแจ้งข้อหาให้ทราบว่าได้กระทําความผิดฐาน “ร่วมกับพวกที่หลบหนีจําหน่าย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจําหน่าย อันเป็นการกระทําเพื่อ การค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทําให้เกิดผลกระทบต่อ ความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
ส่วนเจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขับรถยนต์ติดตามรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ นั้น เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขับติดตามไปถึงบริเวณถนนไม่มีชื่อ ทางเข้าวัดฉัตรทองดําริธรรม ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อถึงบริเวณสถานที่ดังกล่าว ผู้ต้องหา ได้ลงจากรถยนต์ และวิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตํารวจ ซึ่งผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่ ตํารวจจึงได้ตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น vios สีขาวฯ ผลการตรวจค้น พบ พบยา เสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้า) จํานวน 10 กระสอบ ประมาณ 2 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายใน
รถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลาง นําตัวผู้ต้องหาไป ทําบันทึกจับกุมและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ที่ กก.สายตรวจ บก.สปพ. และจะทําการซักถาม
ขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง และนําตัวส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน ๑๙๑
หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับ
การจําหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน ๑๙๑
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.๖๐ปี)
#นสพ.ข่าวเป็นข่าวดอทคอมเอกชัยรายงาน
#ติดต่อโฆษณากดแชร์กดติดตามไอดีLINEeakkachai001

สำนักพิมพ์ข่าวเป็นข่าวดอทคอม
เอกชัย รัตนโยธิน
รับรู้เรื่องราวข่าวสารเพื่อสังคม
