พ.ต.อ. ทวี รมต.ยุติธรรม ดึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายถกปัญหา – อุปสรรค เพิ่มแนวทางพัฒนาการประสานงานคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
พ.ต.อ. ทวี รมต.ยุติธรรม ดึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายถกปัญหา – อุปสรรค เพิ่มแนวทางพัฒนาการประสานงานคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมทั้งมอบนโยบาย โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม นายพงศ์ปกรณ์ รุจิระชุณห์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด นางสาวธัญญานุช ตันติกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้น สำนักงานศาลยุติธรรม ผู้แทนจากหน่วยงานภาคี และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เข้าร่วมจำนวนกว่า 120 คน ระหว่างวันที่ 13 -15 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์ของการประชุมเป็นการร่วมกันหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานยุติธรรม และผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อสะท้อนภาพปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับการดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าร่วมเป็นวิทยากรบรรยายและร่วมเสวนา เพื่อจะนำไปพัฒนาเป็นแนวทางในการประสานงานคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบัน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเปิดการประชุมว่า “รัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเร่งด่วนที่จะลดปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับการดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายในคดียาเสพติดนั้น กระบวนการยุติธรรมของไทยได้กำหนดผู้เกี่ยวข้องไว้หลายฝ่าย ทั้งเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ศาลและราชทัณฑ์ ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายในแต่ละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม การแจ้งข้อหาการสอบสวน ล้วนมีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน และมีส่วนสำคัญมากต่อการดำเนินคดียาเสพติด โดยตนอยากให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจในแนวทางการประสานงานคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และร่วมกันถ่ายทอดสู่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในสังกัดของตนต่อไป”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติดถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งการที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดเปลี่ยนแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดหลายประการ เช่น การมองผู้เสพเป็นผู้ป่วย ทำให้ต้องปรับปรุง ความเข้าใจในการทำงานของผู้บังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สามารถนำกฎหมายไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นผู้ประสานงานกับเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างใกล้ชิด และวางแนวปฏิบัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือ ความโปร่งใส และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดียาเสพติด จะต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งตนได้เน้นย้ำให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และลดปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด โทร 1386 ได้ตลอดเวลา สำนักงาน ป.ป.ส. จะเร่งลดความเดือดร้อนเรื่องยาเสพติดให้กับประชาชนอย่างเต็มที่”
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.59ปี)
#นสพ.ข่าวเป็นข่าวดอทคอมเอกชัยรายงาน
#ติดต่อโฆษณากดแชร์กดติดตามไอดีLINEeakkachai001โทร0894981477